วันนี้เป็นวันที่ 6 แล้วล่ะ มีเรื่องให้ตื่นเต้นเเล้ว ก็คือว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งโทรเข้าบริษัทมาเพื่อจะถามถึงวิธีการรักษาของบริษัท Theravitae ของเราว่ารักษาอย่างไร เราก็ตอบเธอไปว่ามี 2 วิธีในการรักษา คือ
1. การฉีด Stem Cell เข้าเส้นเลือดสู่หัวใจโดยผ่านสายสวน ( Intracoronary Injection )
2. การฉีด Stem Cell เข้าสู่กล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง ( Direct-myocardium Injection )
ตอนนี้เธอบอกว่า ญาติเธอรักษาตัวอยู่ที่รพ.หัวใจกรุงเทพอยู่ แล้วคุณหมอก็เเนะนำเธอว่าให้รักษาโดยการใช้สเตมเซลล์บำบัด ( Stem Cell Therapy) จะเห็นผลมากที่สุด เธอเลยโทรมาถามถึงความต่างระหว่าง 2 แบบนี้ ความจริงเเล้วต่างกันก็เเค่วิธีฉีด Stem Cell เท่านั้นเอง ทั้ง 2 แบบนี้ต่างก็ต้องเก็บเลือดจากStem Cell ทั้งนั้น ปริมาณเท่ากับตอนที่บริจาคเลือดเลย คือ 250 cc.
เก็บเลือดไปทำไม? อยากรู้ไหม
เดี๋ยวพรุ่งนี้บอกต่อเเน่นอน ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านกัน!!
Thursday, May 17, 2007
Wednesday, May 16, 2007
จุดเริ่มต้นงานของMiss Theravitae
วันแรกที่เริ่มงานที่ Theravitae company ในตำแน่ง Assistant Patient Relations Manager เรารูสึกตื่นเต้นมากๆว่าจะต้องเจออะไรบ้าง เเล้วก็เริ่มรู้ว่าบริษัทเราเป็นบริษัทเกี่ยวกับการใช้สเตมเซลล์ในการรักษาโรคหัวใจ หรือที่มีชื่ออังกฤษเก๋ๆว่า "Stem Cell Therapy for Heart Disease" (เหมือนกับชื่อเวบของเราไง)
เราเชื่อว่าหลายๆคนก็คงยังไม่รู้กระมังว่า เราสามารถใช้เซลล์จากเลือดของเราเองรักษาโรคหัวใจได้ เราจะบอกก่อนคร่าวๆเเล้วกันว่า สเตมเซลล์ ( Stem Cell) หรือเซลล์ต้นกำเนิดคืออะไร มันก็คือ เซลล์ชนิดหนึ่งในร่างกายซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นเซลล์เนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่างๆได้ เช่น กลายเป็นกล้ามเนื้อ เส้นเลือด... ถ้าอยากรู้เยอะกว่านี้ก็เข้าไปชมเวบได้ที่ www.vescell.com หรือใน thai version ได้ที่ http://www.theravitae.com/faq.php?lang=th
วันที่ 2-3-4 ของงานเราก็เริ่มเรียนรู้การเก็บประวัติคนไข้ (คนไข้ในที่นี้ เราหมายถึงผู้ป่วยโรคหัวใจนะ) ส่วนมากจะเป็นผู้ป่วยชาวอเมริกันหรือยุโรปทั้งนั้นเลยที่เข้ามาเป็นผู้ป่วยของบริษัทเราที่จะใช้ Stem Cell ในการรักษา คนไทยก็มีบ้างเหมือนกันที่เข้ามาเต่ก็ไม่มากนัก เพราะ เนื่องจากนโยบายของไทยที่ยังไม่รองรับเรื่องนี้มากนัก และอีกหนึ่งปัจจัยก็คือ ค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างสูง เเต่รู้ไหมว่า คนไข้ที่มารักษาทั้งหมดเหมือนกับได้ชีวิตใหม่กลับไปทีเดียว
วันนี้เป็นวันที่ 5 แล้วล่ะ วันนี้เราก็เรียนรู้โรคทั้งหมดที่เกี่ยวกับโรคหัวใจด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน (Diabetes) , โรคคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง (High Cholesterol) , โรคหัวใจเต้นผิดปกติ-หัวใจเต้นเร็วเกินไป (Arrhythmia-Tachycardia) เป็นต้น
ฉนั้น อย่าลืมหมั่นออกกำลังกายเเละกินอาหารที่มีประโยชน์ล่ะ!!
* มีข้อสงสัยหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็เมลมาคุยกันได้ที่ sairung@theravitae.com
เราเชื่อว่าหลายๆคนก็คงยังไม่รู้กระมังว่า เราสามารถใช้เซลล์จากเลือดของเราเองรักษาโรคหัวใจได้ เราจะบอกก่อนคร่าวๆเเล้วกันว่า สเตมเซลล์ ( Stem Cell) หรือเซลล์ต้นกำเนิดคืออะไร มันก็คือ เซลล์ชนิดหนึ่งในร่างกายซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นเซลล์เนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่างๆได้ เช่น กลายเป็นกล้ามเนื้อ เส้นเลือด... ถ้าอยากรู้เยอะกว่านี้ก็เข้าไปชมเวบได้ที่ www.vescell.com หรือใน thai version ได้ที่ http://www.theravitae.com/faq.php?lang=th
วันที่ 2-3-4 ของงานเราก็เริ่มเรียนรู้การเก็บประวัติคนไข้ (คนไข้ในที่นี้ เราหมายถึงผู้ป่วยโรคหัวใจนะ) ส่วนมากจะเป็นผู้ป่วยชาวอเมริกันหรือยุโรปทั้งนั้นเลยที่เข้ามาเป็นผู้ป่วยของบริษัทเราที่จะใช้ Stem Cell ในการรักษา คนไทยก็มีบ้างเหมือนกันที่เข้ามาเต่ก็ไม่มากนัก เพราะ เนื่องจากนโยบายของไทยที่ยังไม่รองรับเรื่องนี้มากนัก และอีกหนึ่งปัจจัยก็คือ ค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างสูง เเต่รู้ไหมว่า คนไข้ที่มารักษาทั้งหมดเหมือนกับได้ชีวิตใหม่กลับไปทีเดียว
วันนี้เป็นวันที่ 5 แล้วล่ะ วันนี้เราก็เรียนรู้โรคทั้งหมดที่เกี่ยวกับโรคหัวใจด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน (Diabetes) , โรคคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง (High Cholesterol) , โรคหัวใจเต้นผิดปกติ-หัวใจเต้นเร็วเกินไป (Arrhythmia-Tachycardia) เป็นต้น
ฉนั้น อย่าลืมหมั่นออกกำลังกายเเละกินอาหารที่มีประโยชน์ล่ะ!!
* มีข้อสงสัยหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็เมลมาคุยกันได้ที่ sairung@theravitae.com
Sunday, May 13, 2007
สเตมเซลล์บำบัด (stem cell therapy)
Direct-myocardium Injection( การฉีดสเตมเซลล์เข้าสู่กล้ามเนื้อหัวใจ)
โรคหัวใจ เป็นหนึ่งในโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสภาพการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยความเครียด ความเร่งรีบ การขาดการออกกำลังกายและการสูบบุหรี่ เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดโรคหัวใจแทบทั้งสิ้น
แต่เดิมนั้น แพทย์จะทำการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจโดยการใช้ยา การผ่าตัดดัวยการทำบายพาสเพื่อแก้ไขเส้นเลือดที่เสียไปโดยทำเส้นเลือดทางเบี่ยงออกจากบริเวณที่อุดตันซึ่งจะทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจเพิ่มขึ้นด้วย หรืออีกวิธีคือการทำบอลลูนและการดามหัวใจด้วยขดเลือด เพื่อขยายหลอดเลือดเดิมให้เลือดสามารถไหลผ่านได้มากกว่าเดิม ทั้งสามวิธีเป็นวิธีการรักษามาตราฐานที่ได้ผลดี แต่อาจมีการกลับมาตีบตันใหม่ได้ในภายหลัง เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้วมักกลับไปดำเนินชีวิตแบบเดิม ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งของผู้ป่วยโรคหัวใจที่กล้ามเนื้อหัวใจตาย สำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้คงทำได้เพียงรอเวลาผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจใหม่เพื่อนำมาใช้แทนที่หัวใจเดิม แต่ก็ต้องรอหาหัวใจทีมีการเข้ากันได้ดีของเนื้อเยื่อ และโอกาสที่จะได้มาก็ต่ำมาก อีกทั้งค่าใช้จ่ายก็สูงมากด้วย
ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ในการรักษาโรคหัวใจด้วยเซลล์ต้นกำเนิด หรือที่เรียกว่า Stem Cell Therapy โดยเซลล์ต้นกำเนิดคือเซลล์ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเซลล์อะไรก็ได้ในร่างกายเรา โดยปกติเราจะพบเซลล์เหล่านี้ได้ในไขกระดูก กล้ามเนื้อ และกระแสเลือด แต่สำหรับผู้ใหญ่จะพบได้ในจำนวนน้อย และไม่เพียงพอต่อการรักษา แต่จากการทดลองโดยบริษัท เธราวีเท สามารถเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ (Stem Cell)ในห้องทดลองเพื่อให้เพียงพอต่อการรักษา และจากการศึกษาในผู้ป่วยหลายรายพบว่าผลการรักษาที่ได้มีผลที่ดี มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเซลล์ที่ได้นั้นมาจากเลือดของผู้ป่วยเอง ซึ่งรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดการต่อต้านจากร่างกาย
ขั้นตอนการรักษาโรคหัวใจด้วยเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์(Stem Cell Therapy)
1. นำเลือดของผู้ป่วยออกมา ปริมาณ 250 ซีซี.
2. จำแนกเอา แองจิโอเจนนิก เซลล์ พรีเคอร์เซอร์ (Angiogenic Cell Precursors-ACPs) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการเปลี่ยนสภาพเป็นเส้นเลือดใหม่ ซึ่งปริมาณที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละรายของผู้ป่วย (ส่วนมากจะเป็นหลักหมื่นต่อซีซี.)
3. กระบวนการเพิ่มเซลล์ในห้องทดลองเพื่อให้เพียงพอต่อการรักษา (ขั้นต่ำ 1.5 ล้านเซลล์ต่อซีซี.)
4. ฉีดเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้ปริมาณ 15 ซีซี. กลับเข้ากล้ามเนื้อหัวใจขึ้นมาใหม่ของผู้ป่วยโดยใช้วิธีส่องกล้องผ่านรูเล็กๆ
5. เซลล์ต้นกำเนิดจะสร้างเส้นเลือดฝอยขึ้นมาใหม่เพื่อนำเลือดไปเลี้ยงยังกล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่ขาดเลือดซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอก และเหนื่อยลดลง เป็นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น
ปัจจุบันทางบริษัท เธราวีเท ได้ดำเนินการสร้างห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์เพื่อเป็นศูนย์วิจัยและผลิตสเต็มเซลล์ในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาลดลง เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้แก่ผู้ป่วยมากขึ้น
หากท่านสนใจข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมเวบไซท์ของเราที่ www.vescell.com หรือ http://www.theravitae.com/index.php?lang=th หรือติดต่อเราโดยตรงที่ sairung@theravitae.com
โรคหัวใจ เป็นหนึ่งในโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสภาพการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยความเครียด ความเร่งรีบ การขาดการออกกำลังกายและการสูบบุหรี่ เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดโรคหัวใจแทบทั้งสิ้น
แต่เดิมนั้น แพทย์จะทำการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจโดยการใช้ยา การผ่าตัดดัวยการทำบายพาสเพื่อแก้ไขเส้นเลือดที่เสียไปโดยทำเส้นเลือดทางเบี่ยงออกจากบริเวณที่อุดตันซึ่งจะทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจเพิ่มขึ้นด้วย หรืออีกวิธีคือการทำบอลลูนและการดามหัวใจด้วยขดเลือด เพื่อขยายหลอดเลือดเดิมให้เลือดสามารถไหลผ่านได้มากกว่าเดิม ทั้งสามวิธีเป็นวิธีการรักษามาตราฐานที่ได้ผลดี แต่อาจมีการกลับมาตีบตันใหม่ได้ในภายหลัง เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้วมักกลับไปดำเนินชีวิตแบบเดิม ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งของผู้ป่วยโรคหัวใจที่กล้ามเนื้อหัวใจตาย สำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้คงทำได้เพียงรอเวลาผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจใหม่เพื่อนำมาใช้แทนที่หัวใจเดิม แต่ก็ต้องรอหาหัวใจทีมีการเข้ากันได้ดีของเนื้อเยื่อ และโอกาสที่จะได้มาก็ต่ำมาก อีกทั้งค่าใช้จ่ายก็สูงมากด้วย
ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ในการรักษาโรคหัวใจด้วยเซลล์ต้นกำเนิด หรือที่เรียกว่า Stem Cell Therapy โดยเซลล์ต้นกำเนิดคือเซลล์ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเซลล์อะไรก็ได้ในร่างกายเรา โดยปกติเราจะพบเซลล์เหล่านี้ได้ในไขกระดูก กล้ามเนื้อ และกระแสเลือด แต่สำหรับผู้ใหญ่จะพบได้ในจำนวนน้อย และไม่เพียงพอต่อการรักษา แต่จากการทดลองโดยบริษัท เธราวีเท สามารถเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ (Stem Cell)ในห้องทดลองเพื่อให้เพียงพอต่อการรักษา และจากการศึกษาในผู้ป่วยหลายรายพบว่าผลการรักษาที่ได้มีผลที่ดี มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเซลล์ที่ได้นั้นมาจากเลือดของผู้ป่วยเอง ซึ่งรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดการต่อต้านจากร่างกาย
ขั้นตอนการรักษาโรคหัวใจด้วยเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์(Stem Cell Therapy)
1. นำเลือดของผู้ป่วยออกมา ปริมาณ 250 ซีซี.
2. จำแนกเอา แองจิโอเจนนิก เซลล์ พรีเคอร์เซอร์ (Angiogenic Cell Precursors-ACPs) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการเปลี่ยนสภาพเป็นเส้นเลือดใหม่ ซึ่งปริมาณที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละรายของผู้ป่วย (ส่วนมากจะเป็นหลักหมื่นต่อซีซี.)
3. กระบวนการเพิ่มเซลล์ในห้องทดลองเพื่อให้เพียงพอต่อการรักษา (ขั้นต่ำ 1.5 ล้านเซลล์ต่อซีซี.)
4. ฉีดเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้ปริมาณ 15 ซีซี. กลับเข้ากล้ามเนื้อหัวใจขึ้นมาใหม่ของผู้ป่วยโดยใช้วิธีส่องกล้องผ่านรูเล็กๆ
5. เซลล์ต้นกำเนิดจะสร้างเส้นเลือดฝอยขึ้นมาใหม่เพื่อนำเลือดไปเลี้ยงยังกล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่ขาดเลือดซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอก และเหนื่อยลดลง เป็นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น
ปัจจุบันทางบริษัท เธราวีเท ได้ดำเนินการสร้างห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์เพื่อเป็นศูนย์วิจัยและผลิตสเต็มเซลล์ในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาลดลง เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้แก่ผู้ป่วยมากขึ้น
หากท่านสนใจข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมเวบไซท์ของเราที่ www.vescell.com หรือ http://www.theravitae.com/index.php?lang=th หรือติดต่อเราโดยตรงที่ sairung@theravitae.com
Friday, May 11, 2007
ความหวังใหม่
คุณอยากไปเที่ยวสวนสนุกเพื่อขึ้นรถไฟเหาะสุดมันส์ ดำนําท่องดูปะการัง ออกกำลังกายสุดเหวี่ยง แต่ทำไม่ได้เพราะเป็นโรคหัวใจ โรคระบบประสาท โรคไขกระดูกสันหลัง รวมถึงมะเร็งชนิดต่างๆ นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวคุณหรือไม่ หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่กำลังมองหาวิธีการรักษาที่เจ็บปวดน้อยที่สุดและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ขณะนี้ได้มีการรักษาที่เรียกว่า สเต็มเซลล์บำบัด (Stem Cell Therapy) ซึ่งเป็นการรักษาเยียวยาโรคมนุษย์ โดยการปลูกถ่ายเซลล์ที่แยกออกต่างหาก เซลล์ผสม โดยผ่านกระบวนการภายนอกร่างกายของมนุษย์ โดยใช้ในการแทนที่ ซ่อมแซมแก้ไข หรือเสริมสร้างเพิ่มเติมการทำงานของเนื้อเยื่อหรีออวัยวะที่ผิดปกติ
หากคุณสนใจอยากรู้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม สามารถเข้าชมเวบไซท์ได้ที่ www.vescell.com หรือ http://www.theravitae.com/index.php?lang=th ซึ่งจะให้ข้อมูลกับคุณได้ทั้งภาษาไทยเเละอังกฤษ หรืออยากอีเมล์คุยกับเราโดยตรงได้ที่ sairung@theravitae.com เราพร้อมที่จะช่วยตอบปัญหาของคุณเสมอ
แล้วท่านจะพบกับชีวิตใหม่ที่เเสนสุขหลังจากเข้ารักษากับเรา
หากคุณสนใจอยากรู้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม สามารถเข้าชมเวบไซท์ได้ที่ www.vescell.com หรือ http://www.theravitae.com/index.php?lang=th ซึ่งจะให้ข้อมูลกับคุณได้ทั้งภาษาไทยเเละอังกฤษ หรืออยากอีเมล์คุยกับเราโดยตรงได้ที่ sairung@theravitae.com เราพร้อมที่จะช่วยตอบปัญหาของคุณเสมอ
แล้วท่านจะพบกับชีวิตใหม่ที่เเสนสุขหลังจากเข้ารักษากับเรา
Subscribe to:
Posts (Atom)